ตัวอย่างการเขียน Resume 3 รูปแบบ ตามระดับของประสบการณ์
การเขียน Resume ทีดีไม่ได้มีรูปแบบเดียวที่สามารถใช้กับทุกคนหรือทุกระดับประสบการณ์ แต่วัตถุประสงค์หลักในการจัดทำ Resume ก็คือการทำให้ผู้สัมภาษณ์หรือบริษัทมีความสะดวกสาบมากขึ้น โดยความลับหนึ่งในการทำให้ Resume ของเรานั้นดูสะดุดตานั้นก็คือระดับประสบการณ์
โดยเราจะแบ่งการเขียน Resume เป็น 3 รูปแบบตามระดับประสบการณ์ คือ ระดับกลาง (Mid-level) ระดับรอง (Junior Level) และระดับนักศึกษาจบใหม่ (New Graduates)
หมายเหตุ ตัวอย่าง Resume นี้ เป็นเพียงข้อมูลสมติทั้งชื่อ ตำแหน่ง บริษัท และระดับประสบการณ์
1. The ‘mid-level professional’ resume
Credit: Gary Burnison / Korn Ferry
ผู้มีประสบการณ์ระดับกลาง ปกติจะมีประสบการณ์ประมาณ 7-15 ปี และมีประสบการณ์ด้านบริหารทีมงาน หรือบริการแผนก เพราฉะนั้น Resume ของระดับนี้อาจะมีความยาวมากกว่า 1 หน้า
Essential tips:
- ส่วนแรกควรเป็นการสรุปความเป็นมืออาชีพในหน้าที่ความรับผิดชอบ การงาน ของคุณ
- ควรแจกแจงทักษะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่คุณมี
- จัดรูปแบบให้งานล่าสุดหรืองานปัจจุบันของคุณโดดเด่นและครอบคลุมเนื้อหาต่างๆ ให้ครบถ้วน ซึ่งไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลของงานแรกด้วยซ้ำไป
- ควรมีคำอธิบายเกี่ยวธุรกิจของบริษัทล่าสุดหรือปัจจุบัน
- เพิ่มเติมตัวเลขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่คุณได้ทำแล้วประสบความสำเร็จ
- เน้นความสำเร็จต่างๆ ที่คุณเคยทำ
2. The ‘junior-level professional’ resume
Credit: Gary Burnison / Korn Ferry
Junior-level มักจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ 2 ปี หรือน้อยกว่า และต้องการให้มีคนดุแลสำหรับการทำงานที่ซับซ้อน โดย Resume สำหรับระดับนี้ควรมีแค่ 1 หน้า และควรมีคุณสมบัติหรือเนื้อหา ดังนี้
Essential tips:
- แสดงให่เห็นว่าคุณชอบทำงานเป็นทีม การทำงานเป็นทีมแล้วทำให้ประสบความสำเร๋จไม่ได้หมายว่า คุณจะเก่งน้อยลง ฉะนั้น การใช้คำว่า เรา ใน Resume ก็เช่นกัน
- ใส่ข้อมูลเฉพาะประสบการณ์ทำงานหรือการฝึกงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น จำเป็นต้องใส่ทุกอย่าง เพราะจะทำให้คนพิจารณาไม่เห็นถึงความโดดเด่นของคุณที่เกี่ยวกับงานที่รับสมัคร
- ไม่ต้องใส่บทสรุปของความเป้นมืออาชีพของคุณ เพราะประสบการณ์ของคุณยังไม่มากพอ ตรงกันข้ามคุณควรให่ความสำคัญกับงานแรกของคุณ สิ่งที่คุณได้ทำแล้วสำเร็จ หรือแม้กระทั่งกิจกรรมเสริมนอกเวลาใมนระกว่างเรียน
- ไม่จำเป็นต้องใส่วัตถุประสงค์ของการทำงาน เพราะมันไม่ได้การันตีใดๆ ให้กับนายจ้างของคุณ
3. The ‘recent college graduate’ resume
Credit: Gary Burnison / Korn Ferry
Essential tips:
- ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาเป็นอันดับแรก รวมถึง GPA
- ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์การฝึกงานสั้นๆ ไม่จำเป็นต้องมาก เพราะคุณไม่ได้รับการให้รับผิดชอบงานมากมายในช่วงของการฝึกงาน การใส่ข้อมูลไปเยอะเกินไปทำให้ผู้สัมภาษณ์อาจคิดว่าคุณพูดเกินจริง ทั้งนี้ให้ใส่ฑาะรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณสมัคร
- เล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณโดยใช้กิจกรรมนอกเวลาเป็นหลัก
- ความยาวไม่เกิน 1 หน้า
- ทำให้ Resume ดูมีระเบียบ อ่านง่าย สะอาดตา
- ใส่รายละเอียดบุคคลอ้างอิง หรือ “Available upon request”